เที่ยวลำพูน, สถานที่ท่องเที่ยวลำพูน, ท่องเที่ยวลำพูน, ทัวร์ลำพูน
จังหวัดลำพูน เป็นจังหวัดที่เก่าแก่ท่สุดในภาคเหนือ เดิมมีชื่อว่า "นครหริภุญชัย" สร้างเมื่อ พ.ศ. 1200 โดยฤาษีวาสุเทพได้เกณฑ์พวกเมงคบุตรเชื้อสายมอญมาสร้างที่พื้นที่ระหว่างแม่น้ำ 2 สาย คือ แม่น้ำปิง และ แม่น้ำกวง เมื่อสร้างเสร็จได้เชิญพระธิดาของพระมหากษัตริย์ของกรุงละโว้ พระนามว่า "พระนางจามเทวี" มาปกครอง มีกษัตริย์ครองเมืองสืบต่อมาหลายราชวงศ์ จนถึง "พลตรีเจ้าจักรคำขจรศักดิ์" และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 จึงได้ยกเลิกตำแหน่งเจ้าผู้ครองนคร
การเดินทาง ถ้าออกจากกรุงเทพ ฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธิน ผ่านดอนเมืองรังสิต เลี้ยวซ้ายที่แยก ก.ม. ที่ 32 ผ่านจังหวัดสิงห์บุรี ชัยนาท เข้าสู่นครสวรรค์ เลี้ยวว้ายที่แยกางหลวงหมายเลข 11 เข้าสู่จังหวัดลำพูน รวมระยะทาง 670 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ช.ม.
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งที่น่าสนใจ สถานที่ท่องเที่ยวลำพูน

1. อนุสาวรีย์พระนางเจ้าจามเทวี
ตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณะหนองดอก สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่พระนางจามเทวี องค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย พระนางทรงเป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรม มีความสามารถ และทรงกล้าหาญ ได้ทรงนำพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมมาเผยแพร่ในดินแดนแถบนี้ จนมีความเจริญรุ่งเรืองสืบมาจนถึงปัจจุบัน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามกุฏราชกุมาร ได้เสด็จมาทรงเปิดอนุสาวรีย์เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2525
.jpg)
2. วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน สร้างเมื่อ พ.ศ. 1651 ในสมันพระเจ้าอาทิตยราชบริเวณวัดประกอบด้วย ซุ้มประตูฝีมือช่างสมัยศรีวิชัยประกอบด้วยซุ้มยอดเป็นชั้น ลายวิจิตรบรรจงมีสิงห์คู่ที่พระเจ้าอาทิตยราชทรงนำมาถวายวังให้เป็นสังฆาราม วิหารหลวงที่มีระเบียงรอบด้านติดมุขทั้งหน้าและหลัง เป็นวิหารที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่แทนวิหารหลังเก่าที่ถูกพายุพัดทำลายไป พระบรมธาตุหริภุญชัยที่บรรจุพระเกศาธาตุในโกศทองคำ ในวันเพ็ญเดือน 6 จะมีงานนมัสการ และทรงน้ำเป็นประจำทุกปี พระบรมธาตุนี้ได้ถูกสร้างโดยพระอาทิตยราชกษัตริย์วงศ์รามัญผู้ครองนครหริภุญชัย และมีการบูรณะดูแลสืยต่อกันมาอีกหลายสมัย ต่อมาในปี พ.ศ 1986 พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่ได้ปฏิสังขรบูรณะเริมองค์พระเจดีย์ขึ้นมาใหม่ เป็นแบบลังกาเหมือนในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะในสมันนั้นมีการติดต่อสัมพันธ์กับลังกา นอกจากจากนี้ยังมีพระสุวรรณเจดีย์ หรือปทุมเจดีย์ สร้างขั้นในสมัย พุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระนางปทุมวดีอัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช โดยสร้างเสร็จภายหลังจากสร้างพระบรมธาตุ 4 ปี เป็นทรงพระปรางค์ 4 เหลี่ยม ฝีมือช่างละโว้ ด้านล่างเป็นกรุบรรจุพระเครื่อง
3. อนุสาวรีย์สุเทวฤาษี
ตั้งอยู่ที่บริเวณแยกดอยติ ริมถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ทางเข้า จ. ลำพูน เดิมตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลากลาง จ.ลำพูน สุเทวาฤาษีเป็นผู้สร้างเมืองหริภุญชัย แต่เนื่องจากเป็นผู้บำเพ็ญสมาบัติและไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลก จึงไปเชิญพระนางจามเทวี ซึ่งเป็นพระธิดาของพระยาจักรวรรดิ์แห่งเมืองละโว้มาปกครองแทน และยังได้ช่วยพระนางจามเทวีประดิษฐานพระบวรพุทธศาสนาในนครหริภุญชัยอย่างมั่นคง

4. วัดมหาวัน
เป็นวัดที่อยู่ในอำเภอเมือง ตำนานกล่าวการสร้างวัดว่า วัดนี้สร้างในสมัยพระนางจามเทวี สิ่งที่น่าสนใจคือ การไปกราบนมัสการ พระพุทธสิกขิ หรือ พระศิลาดำ วึ่งพระนางจามเทวีได้ทรงอันเชิญมาจากเมืองละโว้ ชาวเมืองลำพูเรียกกันว่า พระรอดหลวง หรือ พระรอดลำพูน ซึ่งมีความสำคัญคือเป็นแบบพิมพ์ในการจำลองทำพระเครื่องที่ลือชื่อ คือ พระรอดมหาวัน
5. วัดจามเทวี หรือ วัดกู่กุด
สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 1298 โดยฝีมือช่างละโว้ เจดีย์เป็นสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยา ประเทศอินเดีย แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรอยู่เป็นชั้น ๆ ภายในเจดีย์บรรจุพระอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกาัตริย์ของนครหริภุญชัย ตามตำนานเล่าว่า พระเจ้าอนันตยศและพระเจ้ามหันตยศ ราชโอรสของพระนางจามเทวี ได้เป็นผู้สร้างขึ้น เดิมมียอดหุ้มทองคำ ต่อมายอดได้หักหายไป ชาวบ้านจึงเรียกว่า "กู่กุด" หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า "พระเจดีย์สุวรรณจังโกฏ".
6. กู่ช้าง-กู่ม้า
กู่ช้างเป็นสถูปปลายมน เชื่อกันว่าเป็นสุสานช้างคู่บารมีของพระนางจามเทวี ชื่อ "ภูก่ำงาเขียว" ซึ่งหมายถึงช้างผิวสีคล้ำ งาสีเขียวที่ทรงอานุภาพและทรงอิทธิฤทธิ์ในสงคราม ส่วนกู่ม้า เป็นสถูปทรงระฆัง เชื่อกันว่าเป็นสุสานม้าทรงของโอรสของพระนางจามเทวี
7. ดอยขะม้อ
เดิมเป็นภูเขาไฟโบราณ รูปทรงสัณฐานคล้ายฝาชี บนยอดมีปล่องกว้าง 3 ม. ลูกประมาณ 6 ม. ตอนล่างเป็นบ่อ มีน้ำอยู่ตลอดปี การเดินขึ้นไปบ่อน้ำบนยอเขา ต้องขึ้นบันไดไป 1749 ขั้น แต่บราณประชาชนนับถือกันมาก เพราะเชื่อกันว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ห้ามผู้หญิงตัก เมื่อถึงเทศกาลสรงน้ำพระธาตุ และเมื่อพระมหากษัตริยืไืนเสวยราชสมบัติ จะต้องนะ้ำในบ่อนี้ อันเชิญไปร่วมเป็นน้ำพุทธาภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกทุกครั้ง
8. อุโมงค์ขุนตาล
เป็นอุโมงค์ทางรถไฟลอดผ่านที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 2352 ม. สร้างโดยชาวเยอรมัน ชื่อ เอมิล ไอเซนโฮเฟอร์ แต่ยังไม่ไม่แล้วเสร็จก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 เสียก่อน ทำให้นายเอมิลจำต้องกลับประเทศ ต่อมาในปี พ.ศ. 2460 กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระบิดาแห่งการรถไฟ เสด็จมาเป็นแม่งานก่อสร้างจนแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 2461
9. พระพุทธบามตากผ้า
เป็นปูชนีย์สถานที่สำคัญของลำพูน ตามตำนานเล่าว่า พระพุทธองค์ พร้อมสาวกได้เสด็จจาริกสั่งสอนไปตามที่ต่าง ๆ จนมาถึงที่แห่งนี้ ได้รับสั่งให้นำจีวรที่ซักระหว่างทางออกมาตากกับหน้าผาหิน ซึ่งปัจจุบันก็ยังปรากฏเป็นรอยตารางคล้ายจีวรของพระอยู่ จากนั้นทรงอธิฐานเหยียบพระบาท ประดิษฐานรอยไว้บนลานผาลาด วึ่งเป็นที่ตั้งวัดในปัจจุบัน ด้านหลังของม่อนดอยหลังวัด ได้มีการสร้างพระเจดีย์ศิลปะผสมผสานจากพระธาตุดอยสุเทพและพระธาตุหริภุญชัย โดยมีบันไดนาค 469 ขั้น เชื่อมระหว่างเจดีย์บนม่อนดอยและวัดพระบาทตากผ้าที่เชิงดอย ในวันแรม 8 ค่ำ เดือน 8 เหนือ ซึ่งเป็นวันถวายพระเพลิงพระสรีระของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะมีการสรงน้ำพระพุทธบาทเป็นประจำทุกปี
10. โบราณสถานวัดเกาะกลาง
เดิมเชื่อว่าเป็นเกาะตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำปิงและแม่น้ำสาขาที่แยกออกมาจากแม่น้ำปิง ไหลอ้อมผ่านดินตัวเกาะ ล้วกลับมารวมตัวกันอย่างเดิม ต่อมาเมื่อแม่น้ำปิงเปลี่ยนทิศทาง เกาะกลางจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ เป็นสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ มีโบราณวัตถุ และชิ้นส่วนของประติมากรรมปูนปั้น มีอายุร่วมสมัยกับสมันล้านนาตอนต้น หรือประมาณ 700 ปี มีอิทธิพลมาจากหริภุญชัย นอกจากนี้ยังขุดพบสถาปัตยกรรมคติทวารวดี
11. วัดพระบาทห้วยต้ม อำเภอลี้
เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดใน อ.ลี้ เป็นวัดประจำชาวเขาพระบาทห้วยต้ม ทางเข้ามีอนุสาวรีย์พระครูบาชัยวงศาตั้งอยู่ มีสิ่งก่อสร้างที่ทำจากศิลาแลง ที่ขุดได้จากบ่อศิลาแลง ด้านหลังวัด และมีองค์พระธาตุที่ตกแต่งอย่างสวยงามตามแบบไทยใหญ่และกะเหรี่ยงจากศรัทธาชาวกะเหรี่ยง นอกจากนี้ยังมีการแสดงวัฒนธรรมชาวดอย กระประกวดแม่ยิงกะเหรี่ยง
12. วัดพระธาตุห้าดวง
สันนิษฐานว่าเป็นบริเวณเวียงเก่าลี้ เพราะมีซากกำแพงและคูเมืองตั้งเป็นแถว ตำนานกล่าวไว้ว่า พระนางจามเทวีกษัตริย์แห่งหริภุญชัย ได้ทราบข่าวจากราษฎรเมืองลี้ว่า มีดวงแก้ว 5 ดวง ปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง จึงเสด็จมาทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง ครั้นเวลากลางคืนพระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นแสงสว่างจากดวงแก้วทั้ง 5 ดวง ลอยอยู่บนกองดิน 5 กอง จึงได้สอบถามความเป็นมาทราบความว่า ดวงแก้ว 5 ดวงนั้น คือพระเมโตธาตุของพระพุทธเจ้า ที่ัเคยล้างพระหัตถ์และน้ำจากการล้างนั้นก็ได้ไหลผ่านปลายนิ้วมือทั้ง 5 ของพระองค์ลงพื้นดิน พระนางจึงเกิดศรัทธาและทรงโปรดให้สร้างพระธาตุเจดีย์ครอบกองดิน ทั้ง 5 กองไว้ และเมื่อวันที่20 เมษายนของทุกปีของทุกปี ได้มีการสรงน้ำพระธาตุทั้ง 5 ดวง
13. อุทยานแห่งชาติแม่ปิง
เดิมนั้นเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่หาด - แม่ก้อ ่อมาได้จัดเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อ 13 ก.ค. 2524 ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอของ 3 จังหวัด เช่น อ.ดอยเต้า จ.เชียงใหม่ - อ. ลี้ จ.ลำพูน และ อ. สามเงา จ.ตาก พื้นที่บางส่วนเป็นป่า แม่น้ำปิง วึ่งยาวประมาณ 140 ก.ม. และสองฝั่งแม่น้ำเป็นเกาะแก่ง หน้าผาา หินงอก หินย้อย การเดินทางท่องเที่ยวสามารถเริ่มตั้งแต่ ทะเลสาบดอยเต่า จ. เชียงใหม่ โดยใช้เรือหางยาว แล้วมาต่อแพที่ แก่งสร้อย ล่องมาจนถึงเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก ในทางกลับกันอาจเช่าเรือล่องกลับขึ้นไปได้
14. หมู่บ้านดอนหลวง แหล่งทอผ้าฝ้าย
เป็นหมู่บ้านชาวยองเก่าแก่ซึ่งอพยพมาตั้งบ้านเรือนเมื่อปี พ.ศ. 2352 เดิมชื่อหมู่บ้าน กอถ่อน ในอดีตเป็นที่ค้าวัวค้าควาย ต่อมาในสมันพระเจ้ากาวิละ ได้กวาดต้อนผู้คนจากเมืองยองประเทศพม่าเข้ามาตั้งบ้านเรือนเพื่อ "เก็บฮอมตอมไพร่" ในการบูรณะเมืองลำพูนหลังจากการทำสงครามกับพม่า โดยเริ่มจากชาวยองที่มาตั้งบ้านเรือนและมีกลุ่มใหญ่ ประกอบกับพื้นที่ของหมู่บ้านเป็นเนินดอน จึงตั้งชื่อว่า "หมู่บ้านดอนหลวง" ปัจจุบันหมู่บ้านแหล่งนี้กลายป็นแหล่งรวมหัตถกรรมฝีมือดีของชาวยอง เช้น กลุ่มผ้าสี่ตะกอ กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้าย กลุ่มทอฝ้าและตัดเย็บ กลุ่มเกษตรสวนลำไย และกลุ่มผาปาติกมัดย้อม ซึ่งงานหัตถกรรมที่สืบต่อกันมาเป็นรุ่น ๆ ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีจะมีงาน "แต่งสีอวดลาย ผ้าฝ้ายดอนหลวง"
หมายเหตุ รูปภาพและข้อมูลบางส่วน นำมาจากเวบ http://www.triplamphun.com/ และ ขอของคุณ เวบสำนักงานจังหวัดลำพูนสำหรับข้อมูล
